เจาะลึกบทเสริมบอกทิศทาง 来、去 ตอนที่ 2
ใน ตอนที่ 1 เหล่าซือได้พูดถึง 趋向补语 (qūxiàng bǔyǔ) หรือบทเสริมบอกทิศทาง 来 กับ 去 ในรูปแบบปรกติซึ่งไม่ซับซ้อนไปแล้ว คราวนี้จะพาทุกคนไปรู้จักบทเสริมบอกทิศทางในรูปแบบประสมที่ลึกขึ้นอีกระดับค่ะ
ทบทวนสักนิด...ถ้ายังจำกันได้โครงสร้างบทเสริมบอกทิศทางคือ ส่วนหลัก (คำกริยา) + คำเสริมบอกทิศทาง (来、去) ส่วนโครงสร้างของบทเสริมบอกทิศทางที่เป็นแบบประสมที่เราจะเรียนรู้ในบทความนี้คือ ส่วนหลัก (คำกริยา) + คำเสริมบอกทิศทางประสม (กริยาวลีแบบกริยาคู่ส่วนขยาย) ด้านล่างเป็นตัวอย่างคำเสริมบอกทิศทางประสม ให้สังเกตว่ากริยาวลีทั้งหมดล้วนมาจากบทเสริมบอกทิศทางในรูปแบบปรกติ เช่น
- 上来/ 上去 / 下来 / 下去
- 进来 / 进去 / 出来 / 出去
- 回来 / 回去 / 过来 / 过去 / 起来
เมื่อรวมกับส่วนหลัก (คำกริยา) แล้ว จะใช้ในประโยคดังตัวอย่างต่อไปนี้
一)那只小狗跑回来了。
Nà zhī xiǎo gǒu pǎo huí lai le.
ลูกสุนัขตัวนั้นวิ่งกลับมาแล้ว
二)那么高的树,你怎么爬上去呢?
Nà me gāo de shù, nǐ zěnme pá shàng qu ne?
ต้นไม้สูงออกขนาดนั้น นายปีนขึ้นไปได้ยังไง?
三)他很快就站起来了。
Tā hěn kuài jiù zhàn qǐ lai le.
แป๊บเดียวเขาก็ลุกยืนขึ้นมาละ
เมื่อบทกรรมของประโยคเป็น คำนามเรียกสถานที่ ให้วางบทกรรมนั้นแทรกไว้ที่ด้านหน้าคำเสริมบอกทิศทาง
ตัวอย่าง
一)她今天要搬出留学生宿舍去。
Tā jīntiān yào bān chūliúxuésheng sùshè qu.
วันนี้เขาจะย้ายออกไปจากหอพักนักเรียนต่างชาติ (ผู้พูดอยู่ที่หอพักนักเรียนต่างชาติ)
二)我的手机掉进马桶里去,该怎么办?
Wǒ de shǒujī diào jìn mǎtǒng li qu, gāi zěnme bàn?
โทรศัพท์มือถือของฉันตกลงไปในโถส้วม ควรทำยังไงดีล่ะ (ผู้พูดอยู่ข้างในห้อง)
三)学生们一起走过马路来了。
Xuésheng men yīqǐ zǒu guòmǎlù lai le.
พวกเด็กนักเรียนพากันเดินข้ามถนนมาละ (ผู้พูดอยู่ถนนฝั่งที่เด็กๆ เดินข้ามมา)
เมื่อบทกรรมของประโยคเป็น คำนามเรียกคนหรือสิ่งของ ให้วางบทกรรมนั้นไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังคำเสริมบอกทิศทางได้
ตัวอย่าง
一)你帮我搬回来那台打印机吧。
Nǐ bāng wǒ bān huì lai nà tái dǎyìnjī ba.
คุณช่วยฉันย้ายปริ้นเตอร์เครื่องนั้นกลับมาที (ผู้พูดอยู่ในห้อง)
二)我生日那天哥哥送过来一本故事书。
Wǒ shēngrì nà tiān gēge sòng guò lai yī běn gùshi shū.
ตอนนั้นวันเกิดฉันพี่ชายส่งหนังสือนิทานมาหนึ่งเล่ม (ผู้พูดอยู่ที่บ้าน)
三)学生们举起手来。
Xuéshengmen jǔ qǐshǒulai.
พวกนักเรียนพากันยกมือขึ้นมา (ผู้พูดอยู่ในห้องเรียน)
เมื่อในประโยคมี บทเสริมบอกอาการ “了” ให้วางไว้ด้านหลังคำกริยาหรือด้านหลังคำเสริมบอกทิศทางได้
ตัวอย่าง
一)他很快就站了起来。
Tā hěn kuài jiù zhàn le qǐ lai.
แป๊บเดียวเขาก็ลุกยืนขึ้นมาละ
二)妹妹把帽子摘下来了。
Mèimei bǎ màozi zhāi xià lai le.
น้องสาวถอดหมวกลงแล้ว
เมื่อในประโยคมี บทเสริมบอกอาการ “着” ให้วางไว้ด้านหลังคำกริยาเท่านั้น และจะทำให้โครงสร้างประโยครวมถึงการสื่อความหมายต่างไปจากเดิม
ตัวอย่าง
一)她拉着行李进来。
Tā lā zhe xíngli jìn lai.
เขาลากกระเป๋าเข้ามา
*拉着行李 กลายเป็นส่วนขยายให้กับกริยาวลี 进来 ซึ่งทำหน้าที่เป็นกริยาหลักของประโยคแทน
二)你的猫从这儿跑着回去。
Nǐ de māo cóng zhèr pǎo zhe huí qu.
แมวของเธอวิ่งกลับไปจากที่นี่
*跑着 กลายเป็นส่วนขยายให้กับกริยาวลี 回去 ซึ่งทำหน้าที่เป็นกริยาหลักของประโยคแทน
บทเสริมบอกทิศทางในรูปแบบประสมอาจให้ความหมายที่ต่างออกไป ไม่เชื่อมโยงโดยตรงกับเรื่องทิศทาง
ตัวอย่าง
一)要到选举期间了,气氛都热闹起来了。
Yào dào xuǎnjǔ qījiān le, qìfēn dōu rènao qǐ lai le.
เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งแล้ว บรรยากาศคึกคักขึ้นมาเลย
二)这件事嘛,说起来容易,做起来难。
Zhè jiàn shì ma, shuō qǐ lai róngyì, zuò qǐ lai nán.
เรื่องพวกนี้น่ะหรอ พูดมันง่าย ทำมันยากนะ
三)我认出来了,他是小明,学校的校草。
Wǒ rèn chū lai le, tā shì Xiǎo Míng, xuéxiào de xiàocǎo.
ฉันนึกออกแล้ว เขาก็คือเสี่ยวหมิงที่เป็นเดือนของโรงเรียนน่ะเอง
四)你名字就在这儿写下来。
Nǐ míngzi jiù zài zhèr xiě xià lai.
ชื่อของคุณให้เขียนไว้ตรงนี้นะคะ
五)我看不下去了,太恶心。
Wǒ kàn bú xià qu le, tài ěxin.
ฉันทนดูไม่ไหวแล้ว น่าสะอิดสะเอียนเกินไป
สรุป
บทเสริมบอกทิศทางในรูปแบบประสมจะให้ความหมายที่ซ้อนขึ้นอีกชั้นจากบทเสริมบอกทิศทาง 来 กับ 去 ในรูปแบบทั่วไป โดยอาจเป็นความหมายที่เกี่ยวข้องกับทิศทางหรือเชื่อมโยงโดยตรงกับเรื่องทิศทางก็ได้
ในส่วนตำแหน่งของบทกรรมไม่ได้ต่างกัน คือ หากบทกรรมเป็นสถานที่ ให้วางบทกรรมที่เป็นสถานที่แทรกไว้ด้านหน้าคำเสริมบอกทิศทางเท่านั้น หากเป็นบทกรรมอื่นจะวางไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังคำเสริมบอกทิศทางก็ได้
กรณีที่ปรากฏร่วมกับบทเสริมบอกอาการ “了” ให้วาง “了” ไว้ด้านหลังคำกริยาหรือด้านหลังคำเสริมบอกทิศทาง ส่วนบทเสริมบอกอาการ “着” เมื่อเติมเข้ามาแล้วทำให้โครงสร้างกับความหมายของประโยคเปลี่ยนไปจึงไม่ขอนำมากล่าวอีก ต่อไปเรามาทำแบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจกันสักนิดค่ะ
แบบฝึกหัด
#1
妈妈__________五个芒果。Māma__________wǔ ge mángguǒ.
A. 没买来 méi mǎi lai
B. 买回去 mǎi huí qu
C. 买回来 mǎi huí lai
#2
小丽从书包里__________一盒牛奶。Xiǎo Lì cóng shūbāo li__________yī hé niúnǎi.
A. 拿出来 ná chū lai
B. 拿出去 ná chū qu
C. 拿去来 ná qù lai
#3
大卫__________了。Dàwèi__________le.
A. 爬上山去 pá shàng shān qu
B. 上爬山去 shàng pá shān qu
C. 爬山去上 pá shān qu shàng
#4
他从地上__________一块石头_______。Tā cóng dì shang__________yī kuài shítou_______.
A. 捡来,起 jiǎn lai, qǐ
B. 捡起,来 jiǎn qǐ, lai
C. 捡起,去 jiǎn qǐ, qu
#5
我们一定要__________。Wǒmen yīdìng yào__________.
A. 坚持出去 jiānchí chū qu
B. 坚持上来 jiānchí shàng lai
C. 坚持下去 jiānchí xià qu
เป็นอย่างไรบ้างคะคงยังไม่ถึงขั้นกุมขมับกันใช่ไหมเอ่ย ... มาดูเฉลยกันค่ะ :)
เฉลย
#1
ตอบ C.
妈妈买回来五个芒果。
Māma mǎi huí lai wǔ ge mángguǒ.
แม่ซื้อมะม่วงกลับมา 5 ลูก
#2
ตอบ A.
小丽从书包里拿出来一盒牛奶。
Xiǎo Lì cóng shūbāo li ná chū lai yī hé niúnǎi.
เสี่ยวลี่หยิบนมหนึ่งกล่องออกมาจากกระเป๋า
#3
ตอบ A.
大卫爬上山去了。
Dàwèi pá shàng shān qu le.
เดวิดปีนขึ้นไปบนเขาแล้ว
#4
ตอบ B.
他从地上捡起一块石头来。
Tā cóng dì shang jiǎn qǐ yī kuài shítou lai.
เขาเก็บก้อนหินขึ้นมาจากพื้นหนึ่งก้อน
#5
ตอบ C.
我们一定要坚持下去。
Wǒmen yīdìng yào jiānchí xià qu.
พวกเราจะต้องยืนหยัดต่อไปให้ได้
ตอบถูกกันหมดทุกข้อไหมคะ อย่าลืมนำบทเสริมบอกทิศทาง 来 กับ 去 ทั้งแบบปรกติและแบบประสมไปฝึกใช้กันบ่อยๆ นะคะ หรือจะนำตัวอย่างด้านบนไปประยุกต์แล้วแทนที่คำให้เข้ากับสถานการณ์ที่พบเจอก็จะช่วยให้สื่อสารได้คล่องแคล่วมากขึ้นค่ะ
บทความแนะนำ :
- เจาะลึกบทเสริมบอกทิศทาง 来、去 ตอนที่ 1
- 把 ใช้ยังไง? วิธีใช้ไวยากรณ์ 把字句 ตอนที่ 1
- รู้จักคำเชื่อม 又...又... และ 一边...一边... คืออะไร? ใช้ต่างยังไง?
- ว่าด้วย 一 (yī) และกฎการเปลี่ยนเสียง
- รู้จักคำเสริมบอกอาการ 着 了 过
ติดตามสาระความรู้ภาษาจีนกลางเข้าใจง่ายได้เป็นประจำที่
เพจ Learning East ภาษาจีนเรียนสนุก จำง่าย มั่นใจ
"เรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่พูดไม่ได้สักที...เป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่า?"
คุณเป็นคนนึงหรือเปล่าที่เรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่ยังสื่อสารไม่ได้สักที?
ถ้าคำตอบคือ 'ใช่' ไม่ต้องแปลกใจ เพราะมีนักเรียนไทยมากมายที่ประสบปัญหานี้เช่นกัน
จบปัญหาเรียนจีนแต่พูดไม่ได้ฟังไม่ออก ใน 'คอร์สภาษาจีนออนไลน์เพื่อการสื่อสาร (แบบกลุ่ม)' จากสถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์
- เน้นพัฒนาทักษะการฟัง-พูดเพื่อการสื่อสารโดยเฉพาะ
- เรียนสดเป็นกลุ่มเล็กแบบออนไลน์ ฝึกฝนทั่วถึง
- บทเรียนมีประสิทธิภาพ ใช้สื่อสารได้จริง
- สอนโดยเหล่าซือชาวจีนที่มีประสบการณ์สอน นร. ไทยและต่างชาติ